top of page

Organic Agriculture

เกษตรอินทรีย์

โดย TSA สนับสนุน โดย VG

เพื่อโครงการ ดวงใจหทัยราษฏร์ ปราชญ์แห่งน้ำ ในอนาคต
เพื่อสร้างครัวของโลก และ นำความสมบูรณ์ ความมั่งคั่ง สู่เกษตรกรไทย                                                                             

จากข้อมูลที่หลากหลายและเป็นจริง เท่านั้น  แล้วนำมาตกผลึก ย่อมทำให้ความฝัน-ของสินค้าเกษตรอินทรีย์เป็นจริงได้

7-1.png

โครงการ ฟาร์มเกษตร M3 บางบาล อยุธยา เป็นโครงการตัวอย่าง และ นำล่อง โครงการการเกษตร A7 (Agriculture A7) ของโครงการ บนที่ดิน ประมาณ 100 ไร่ ดำเนินการโดย The SUN Academy (TSA) และจากการสนับสนุนของ Vicharn Group (VG)

เพื่อ 1.วางรากฐานในโครงการ ดวงใจหทัยราษฏร์ ปราชญ์แห่งน้ำ ในอนาคต
2. เพื่อสร้างครัวของโลก จากการผ่านการรับรองฐานการผลิตทางการเกษตรของพืชและสัตว์อินทรีย์ จากการรับรองมาตรฐาน Organic Thailand  และ IFOAM   3. นำความสมบูรณ์ ความมั่งคั่ง สู่เกษตรกรไทย  4.)  ทำโครงการ Maldives in Thailand (M I T) ในส่วนของ M3 บางบาล เนื้อที่ประมาณ 1,000 ไร่ ให้เขียวขจี เพื่อรองรับการมาพักอาศัย และ ทำธุรกิจ บนเกาะส่วนตัว บนแผ่นดิน สูง 10 เมตร น้ำไม่ท่วมอย่างถาวร

Shortcut

การปราบหรือป้องกันศัตรูพืช 🐞 เช่น แมลง หนอน 🐛หรือเพลี้ย และ เกษตรอินทรีย์ ที่ M3ไม่ใช่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป 

​ปฏิทินปลูกผัก ปลูกอย่างไรให้มีผักกินทั้งปี 

ปลูกผักกินทั้งปี

The Sun Academy(TSA) และ Vicharn Group (VP) ใคร่เชิญขวนปลูกผักกินทั้งปี ด้วย "ปฏิทินปลูกผัก ปลูกอย่างไรให้มีผักกินทั้งปี"

การเริ่มต้นปลูกผัก สเต็ปต์แรกการเลือกชนิดของผักที่ปลูกนั้นก็สำคัญ โดยเจ้าของบ้านควรเลือกปลูกชนิดที่ตนเองและสมาชิกในครอบครัวรับประทาน นอกเหนือจากพืชผักที่รับประทานในชีวิตประจำวันเป็นประจำ อาทิ หอมแบ่ง ผักชี กะเพรา โหระพา ตะไคร้ มะนาว มะกรูด พริก เป็นต้น ซึ่งผักเหล่านี้สามารถปลูกในกระถางได้ด้วย แต่หากอยากปลูกผักให้มีทานทั้งปีนั้น สามารถเลือกชนิดของผักที่เติบโตได้ดีตามแต่ละช่วงเดือนในหนึ่งปี ดังนี้ สิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงคือการปลูกผักตามฤดูกาล ซึ่งมีสภาพอากาศที่เหมาะกับผักแต่ละชนิดจะทำให้ผักเติบโตได้ดี สวยงาม ไม่ต้องใช้สารเคมีเพื่อเร่งการเจริญเติบโต แต่ละฤดูสามารถปลูกได้ดังนี้
1.) ปลูกผักฤดูร้อน
เป็นฤดูที่พืชผักอาจจะไม่สวยงามนัก ทั้งเพราะด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าว การปลูกผักในช่วงนี้จึงควรให้ความสำคัญกับการรดน้ำเป็นพิเศษ และสามารถเลือกชนิดของผักได้ตามที่เหมาะจะรับประทานในฤดูนี้คือพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นซึ่งจะแก้อาการร้อนในของร่างกายคนเราได้ด้วย เช่น แตงกวา บวบ ฟัก ผักกาดขาว ผักกาดฮ่องเต้ และผักเลื้อยทั่วไป
2.) ปลูกผักฤดูฝน
สภาวะความชื้นสูง บวกน้ำฝนธรรมชาติที่ควบคุมไม่ได้ทำให้ผักบางชนิดเกิดอาการเน่าได้ง่าย ผักในฤดูนี้จึงมีราคาค่อนข้างสูงและช้ำง่าย แต่ผักพื้นบ้านส่วนใหญ่ก็จะงามพร้อมให้เก็บมารับประทานในช่วงนี้เช่นกัน ได้แก่ ผักปลัง ดอกขจร ตำลึง ผักกูด โสน ขี้เหล็ก ผักบุ้ง กวางตุ้ง คะน้า ถั่วฝักยาว มะเขือ และพืชตระกูลขิงข่า                                            

3.) ปลูกผักฤดูหนาว
เรียกได้ว่าช่วงนี้เป็นเวลานาทีทองของผักสลัด กะหล่ำ ผักกาด  ผักคอส กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค รวมถึงผักรับประทานหัวก็ปลูกได้ดีช่วงนี้อย่างเช่น แครอท บีตรู้ต แรดิช นอกจากนี้ผักพื้นบ้านและพืชผักทั่วไปหลายชนิดก็ให้ผลดีในช่วงหน้าหนาว เช่น ดอกแค สะเดา  กุยช่าย หอมแบ่ง ผักชี ขึ้นฉ่าย เป็นต้น ขอบคุณ Website : Garden @ Farm https://gardenandfarm.baanlaesuan.com/104632/farming-101/veg_calendar 

5 May-tile.jpg
9 Sep-tile.jpg
คำจำกัดความ

1.) โครงการ ฟาร์มเกษตรอินทรีย์ M3 โกอินเตอร์ บางบาล อยุธยา  เริ่มแล้ว ตั้งแต่ 9 มีนาคม 2568  เป็นโครงการเกษตรอินทรีย์ตัวอย่าง และ นำล่อง โครงการ MIT ทุกโครงการ

1.) คำจำกัดความของ เกษตรอินทรีย์ และ องค์ประกอบ จาก AI

🌾 คำจำกัดความของ "เกษตรอินทรีย์"

เกษตรอินทรีย์ (Organic Agriculture) คือ ระบบการผลิตทางการเกษตร ที่เน้นการทำงานร่วมกับธรรมชาติ โดยไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์ เช่น ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง และยากำจัดวัชพืช รวมถึงการไม่ใช้พันธุกรรมดัดแปลง (GMO) เน้นการรักษาสมดุลของระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภคและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

🌱 หลักการสำคัญของเกษตรอินทรีย์

เกษตรอินทรีย์มี 4 หลักการสำคัญ ที่เป็นแนวทางปฏิบัติ ได้แก่:

  1. หลักการของสุขภาพ (Health):

    • การผลิตทางการเกษตรต้องเสริมสร้างและรักษาสุขภาพของดิน พืช สัตว์ มนุษย์ และโลก

    • หลีกเลี่ยงสารเคมีและสารตกค้าง เพื่อให้ผลผลิตมีคุณค่าทางโภชนาการและปลอดภัย

  2. หลักการของนิเวศวิทยา (Ecology):

    • การทำเกษตรต้องสอดคล้องกับระบบนิเวศธรรมชาติ

    • ส่งเสริมการหมุนเวียนของธาตุอาหาร การใช้ทรัพยากรอย่างสมดุล และอนุรักษ์ดินและน้ำ

  3. หลักการของความเป็นธรรม (Fairness):

    • เกษตรกรและผู้ผลิตต้องได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรม

    • ผู้บริโภคต้องได้บริโภคผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย

    • ส่งเสริมความเป็นธรรมในทุกกระบวนการผลิตและการค้า

  4. หลักการของการดูแล (Care):

    • ต้องคำนึงถึงผลกระทบในระยะยาวต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพของผู้ผลิต ผู้บริโภค และระบบนิเวศ

    • หลีกเลี่ยงการใช้เทคโนโลยีที่อาจเป็นอันตราย

🌾 องค์ประกอบของระบบเกษตรอินทรีย์

ระบบเกษตรอินทรีย์มี 7 องค์ประกอบหลัก ดังนี้:

1. ดิน (Soil)

✅ เน้นการปรับปรุงคุณภาพดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ ด้วยวิธีธรรมชาติ เช่น:

  • การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด

  • การคลุมดินด้วยฟางหรือหญ้าแห้ง

  • การไถกลบพืชปุ๋ยสด เช่น ถั่วเขียว ปอเทือง

2. พันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ (Plant and Animal Varieties)

✅ เลือกใช้พันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และทนต่อโรค แมลง และสภาพแวดล้อม เช่น:

  • พันธุ์ข้าวพื้นเมืองที่ทนต่อศัตรูพืช

  • พันธุ์ผักและผลไม้ท้องถิ่นที่ทนทานต่อสภาพอากาศ

3. น้ำ (Water)

✅ แหล่งน้ำต้องสะอาด ปราศจากสารเคมีและโลหะหนัก
✅ การใช้น้ำควรมีประสิทธิภาพ เช่น:

  • ใช้ระบบน้ำหยดเพื่อลดการสูญเสียน้ำ

  • จัดระบบระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำขัง

4. การจัดการศัตรูพืชและโรค (Pest and Disease Management)

✅ หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีโดยใช้วิธีธรรมชาติ เช่น:

  • ใช้ศัตรูธรรมชาติ เช่น แมลงเต่าทอง และ แมลงช้างปีกใส

  • ใช้น้ำหมักชีวภาพ เช่น น้ำหมักสมุนไพร (พริก กระเทียม ข่า ตะไคร้)

  • ปลูกพืชสมุนไพรขับไล่แมลง เช่น ตะไคร้หอม สะระแหน่ โหระพา

5. การจัดการวัชพืช (Weed Management)

✅ หลีกเลี่ยงการใช้สารกำจัดวัชพืช โดยใช้วิธีธรรมชาติ เช่น:

  • การคลุมดินด้วยฟางข้าวหรือหญ้าแห้ง

  • การถอนวัชพืชด้วยมือหรือใช้เครื่องมือกล

  • การปลูกพืชคลุมดิน เช่น ถั่วเขียว ปอเทือง

6. การจัดการธาตุอาหารพืช (Nutrient Management)

✅ เน้นการเพิ่มธาตุอาหารในดินด้วยวิธีธรรมชาติ เช่น:

  • ใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์น้ำหมักจากเศษอาหาร

  • ปลูกพืชปุ๋ยสด เช่น ถั่วเขียว ปอเทือง แล้วไถกลบเพื่อเพิ่มไนโตรเจนในดิน

  • ใช้หินฟอสเฟตและขี้เถ้าไม้ เพื่อเพิ่มฟอสฟอรัสและโพแทสเซียม

7. การจัดการผลผลิต (Post-Harvest Management)

✅ หลังการเก็บเกี่ยวต้องมีการจัดการที่เหมาะสม เช่น:

  • ล้างทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาด

  • หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีเพื่อยืดอายุผลผลิต

  • เก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสมเพื่อรักษาคุณภาพ

✅ ตัวอย่างเทคนิคเกษตรอินทรีย์ในประเทศไทย

  1. ข้าวอินทรีย์ – ใช้การปลูกแบบนาข้าวอินทรีย์ เลี่ยงการใช้สารเคมี

  2. ผักอินทรีย์ – ใช้ปุ๋ยอินทรีย์และน้ำหมักสมุนไพรในการบำรุงต้นและป้องกันศัตรูพืช

  3. ผลไม้อินทรีย์ – ปลูกผลไม้โดยใช้ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักจากเศษพืชผัก

  4. ปศุสัตว์อินทรีย์ – เลี้ยงสัตว์ในระบบเปิด ปล่อยให้สัตว์ได้กินหญ้าตามธรรมชาติ

🌍 ประโยชน์ของเกษตรอินทรีย์

✅ ลดสารพิษตกค้างในผลผลิต
✅ เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน
✅ ปลอดภัยต่อสุขภาพของเกษตรกรและผู้บริโภค
✅ ส่งเสริมระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ
✅ ได้รับการรับรองมาตรฐาน เช่น IFOAM (International Federation of Organic Agriculture Movements)

🎯 สรุป

เกษตรอินทรีย์เป็นระบบการเกษตรที่เน้นการทำงานร่วมกับธรรมชาติ โดยหลีกเลี่ยงสารเคมีสังเคราะห์และการดัดแปลงพันธุกรรม (GMO) เพื่อผลิตอาหารที่ปลอดภัยและรักษาสมดุลของระบบนิเวศ องค์ประกอบหลัก ได้แก่ ดิน พันธุ์พืช น้ำ การจัดการศัตรูพืชและโรค การจัดการวัชพืช การจัดการธาตุอาหาร และการจัดการผลผลิต 🍀😊

2. ) คำจำกัดความของ เกษตรอินทรีย์ และ องค์ประกอบอื่น ๆ และที่มา

2. องค์ประกอบ

เกษตรอินทรีย์ (Organic Farming) คือระบบการผลิตทางการเกษตรที่มุ่งเน้นการรักษาสุขภาพของดิน ระบบนิเวศ และผู้คน โดยอาศัยกระบวนการทางนิเวศวิทยา ความหลากหลายทางชีวภาพ และวงจรธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ แทนการใช้ปัจจัยการผลิตที่มีผลกระทบทางลบ

greennet.or.th

องค์ประกอบหลักของเกษตรอินทรีย์:

  1. การรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดิน: เน้นการใช้ปุ๋ยธรรมชาติ เช่น ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก และการปลูกพืชหมุนเวียน เพื่อเพิ่มสารอินทรีย์ในดิน

    วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

  2. การจัดการศัตรูพืชโดยวิธีธรรมชาติ: ใช้วิธีการควบคุมศัตรูพืชทางชีวภาพ เช่น การปล่อยแมลงที่เป็นประโยชน์ หรือการใช้สารสกัดจากพืชสมุนไพร แทนการใช้สารเคมีสังเคราะห์

    วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

  3. การรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ: ส่งเสริมการปลูกพืชหลากหลายชนิดและการเลี้ยงสัตว์ร่วมกัน เพื่อสร้างสมดุลในระบบนิเวศการเกษตร

    greennet.or.th

  4. การห้ามใช้สารเคมีสังเคราะห์และสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม (GMOs): หลีกเลี่ยงการใช้ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง และเมล็ดพันธุ์ที่ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรม เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ

    วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

  5. การส่งเสริมความยั่งยืนทางสังคมและเศรษฐกิจ: เน้นการสร้างความเป็นธรรมในสังคมเกษตรกร และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ผลิตและผู้บริโภค

    greennet.or.th

การปฏิบัติตามหลักการและองค์ประกอบเหล่านี้ ช่วยให้เกษตรอินทรีย์เป็นระบบการผลิตที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

​3.) ในปัจจุบัน ในไทยและประเทศ มีการนำเทคโนโลยี มาใช้เพื่อพัฒนาเกษตรเกษตรอินทรีย์ อะไรบ้าง? 

เทคโนโลยี

ในปัจจุบัน ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้เพื่อพัฒนาเกษตรอินทรีย์อย่างหลากหลาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดการใช้สารเคมี และรักษาสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างของเทคโนโลยีเหล่านี้ได้แก่:

  1. การใช้ดาวเทียมและเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ: ประเทศไทยมีการใช้ดาวเทียม THEOS-2 เพื่อจำแนกและระบุสิ่งที่คลุมอยู่บนพื้นผิวโลกได้อย่างแม่นยำ ซึ่งช่วยในการวางแผนการเกษตรและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ

    Garden & Farm

  2. นวัตกรรมปัจจัยการผลิตเกษตรอินทรีย์: มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เช่น ปุ๋ยอินทรีย์สูตรต่างๆ คีโตเมี่ยม (Chaetomium) สำหรับป้องกันและกำจัดโรคพืช และนาโนวัคซีนพืช ซึ่งช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคในพืชผ่านเทคโนโลยีที่ซับซ้อน

    Technology Chaoban

  3. การใช้ระบบเกษตรเชิงนิเวศ (Agroecology): เป็นการผสมผสานการปลูกพืช การเลี้ยงสัตว์ และการอนุรักษ์ระบบนิเวศให้สอดคล้องกับธรรมชาติ เพื่อสร้างระบบการเกษตรที่ยั่งยืน

    Technology Chaoban

  4. การลดการไถพรวน (No-Till Farming): เทคนิคนี้ช่วยรักษาโครงสร้างดิน ลดการชะล้าง และเพิ่มความสามารถในการกักเก็บน้ำ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเกษตรอินทรีย์

    Technology Chaoban

  5. การอนุรักษ์น้ำและความชื้นในดิน: การใช้วิธีคลุมดินและปลูกพืชปกคลุมเพื่อลดการระเหยของน้ำและป้องกันการพังทลายของดิน ช่วยรักษาความชื้นและความอุดมสมบูรณ์ของดิน

    Technology Chaoban

การนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ในเกษตรอินทรีย์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

เครื่องมือ

​4.) มีเครื่องมือ ,อุปกรณ์ และ กรรมวิธีใด ทางเกษตรอินทรีย์ ที่ต้องใช้ กับ หรือ มาจาก 1.) Solar Cell , 2.) พลังานแสงอาทิตย์ 3.) พลังงานลม, 4.) หรือ พลังงานน้ำ 

ในเกษตรอินทรีย์ มีการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ผ่านเครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างการใช้พลังงานจากแหล่งต่าง ๆ มีดังนี้:

  1. พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy):

    • ระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์: ใช้แผงโซลาร์เซลล์ในการผลิตไฟฟ้าเพื่อขับเคลื่อนปั๊มน้ำ ช่วยลดต้นทุนพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

      AAA PLC

    • โรงเรือนผักอัจฉริยะพลังงานแสงอาทิตย์: โรงเรือนที่ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อจ่ายไฟฟ้าให้กับระบบควบคุมสภาพแวดล้อม เช่น ระบบพรางแสงอัตโนมัติและระบบรดน้ำ ช่วยเพิ่มผลผลิตและลดการใช้พลังงานจากแหล่งอื่น

      Technology Chaoban

    • ระบบแสงสว่างในฟาร์ม: ใช้พลังงานจากโซลาร์เซลล์เพื่อให้แสงสว่างในฟาร์มหรือโรงเรือน ช่วยเพิ่มผลผลิตและความปลอดภัย โดยไม่ต้องพึ่งพาไฟฟ้าจากภายนอก

      solaredge.com

  2. พลังงานลม (Wind Energy):

    • กังหันลมผลิตไฟฟ้า: ติดตั้งกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้าใช้ในฟาร์ม ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานฟอสซิลและลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน

  3. พลังงานน้ำ (Hydropower):

    • ระบบสูบน้ำพลังงานน้ำ: ใช้พลังงานจากกระแสน้ำหรือกังหันน้ำในการสูบน้ำเพื่อการเกษตร ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าหรือเชื้อเพลิง

การนำพลังงานหมุนเวียนเหล่านี้มาใช้ในเกษตรอินทรีย์ ช่วยเสริมสร้างความยั่งยืน ลดต้นทุน และรักษาสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่สำหรับอนุชนรุ่นหลัง

​5.) ขั้นตอน ที่จำเป็น และ สำคัญ ในการทำเกษตรอินทรีย์ สำหรับประเทศไทย

ขั้นตอน

การทำเกษตรอินทรีย์ในประเทศไทยเป็นกระบวนการที่ต้องการความเข้าใจและการปฏิบัติที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขั้นตอนสำคัญในการทำเกษตรอินทรีย์มีดังนี้:

  1. การเตรียมดิน:

    • ไถพรวนดินและปล่อยทิ้งไว้เพื่อให้วัชพืชงอก จากนั้นไถกลบเพื่อกำจัดวัชพืช

      research.srru.ac.th

    • ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยพืชสด เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน

      Organic Little Farmer

  2. การเลือกเมล็ดพันธุ์:

    • เลือกใช้เมล็ดพันธุ์ที่ปราศจากการตัดต่อพันธุกรรม (Non-GMO) และไม่ผ่านการเคลือบสารเคมี

      kas.siamkubota.co.th

  3. การปลูกพืช:

    • ปฏิบัติตามวิธีการปลูกที่เหมาะสมกับชนิดของพืช เช่น การปลูกข้าวแบบปักดำสำหรับข้าวอินทรีย์

6. ตัวอย่างเกษตรอินทรีย์

​6.) ตัวอย่างการจัดทำเกษตรอินทรีย์ในประเทศไทย ที่ประสบความสำเร็จ

เกษตรอินทรีย์ในประเทศไทยมีตัวอย่างความสำเร็จที่น่าสนใจ ดังนี้:

1. คุณดาวเรือง ไชยโชติ: ความสำเร็จในเกษตรทฤษฎีใหม่

คุณดาวเรือง ไชยโชติ อดีตพ่อค้าที่หันมาทำเกษตรกรรมบนพื้นที่ 14 ไร่ ในจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยใช้หลักเกษตรทฤษฎีใหม่ ปลูกพืชกว่า 50 ชนิดแบบผสมผสาน เช่น ไผ่ มะนาว และพืชผักสวนครัว ทำให้มีรายได้เฉลี่ยวันละ 500-1,000 บาท และสามารถส่งลูกทั้งสามคนเรียนจนจบปริญญา

MITR PHOL MODERNFARM

2. 10 เกษตรกรดีเด่น: รางวัลเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด

มีเกษตรกรไทย 10 คนที่ได้รับรางวัล "เกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด" จากผลงานโดดเด่นในการนำธุรกิจเกษตรยุคใหม่สู่ความยั่งยืน รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่  thestorythailand.com

ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการทำเกษตรอินทรีย์ในประเทศไทย ซึ่งสามารถนำมาเป็นต้นแบบในการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน

​7.) คำจำกัดความของ เกษตรทฤษฏีใหม่ และ องค์ประกอบ

7. เกษตรทฤษฎีใหม่

เกษตรทฤษฎีใหม่เป็นแนวคิดการจัดการพื้นที่การเกษตรที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 แห่งประเทศไทยทรงริเริ่มขึ้น เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน แนวคิดนี้เน้นการจัดสรรพื้นที่การเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วนตามสัดส่วน 30:30:30:10 ดังนี้:

  1. สระน้ำ (30%): สำหรับกักเก็บน้ำฝนเพื่อใช้ในการเกษตรและอุปโภคบริโภคตลอดปี

  2. นาข้าว (30%): เพื่อปลูกข้าวสำหรับบริโภคภายในครอบครัว หากเหลือสามารถจำหน่ายได้

  3. พืชสวนและพืชไร่ (30%): สำหรับปลูกพืชผัก ผลไม้ หรือเลี้ยงสัตว์ เพื่อเสริมรายได้และความมั่นคงทางอาหาร

  4. ที่อยู่อาศัยและอื่น ๆ (10%): ใช้สำหรับสร้างบ้านเรือน เลี้ยงสัตว์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ

การจัดสรรพื้นที่ในลักษณะนี้ช่วยให้เกษตรกรมีความมั่นคงทางอาหาร ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพืชชนิดเดียว และสามารถจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถศึกษาได้จากเอกสารของสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) rdpb.go.th  

​8.) ตัวอย่างการจัดทำเกษตรอินทรีย์ในประเทศไทย ที่ประสบความสำเร็จ

8. ตัวอย่าง

เกษตรทฤษฎีใหม่เป็นแนวทางการจัดการพื้นที่การเกษตรที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงริเริ่ม เพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนและพึ่งพาตนเองของเกษตรกร มีเกษตรกรหลายรายที่นำแนวทางนี้ไปปฏิบัติและประสบความสำเร็จ ดังนี้:

1. คุณดาวเรือง ไชยโชติ: เกษตรกรต้นแบบจากจังหวัดกาฬสินธุ์

คุณดาวเรือง ไชยโชติ อดีตพ่อค้าที่หันมาทำเกษตรกรรมบนพื้นที่ 14 ไร่ในจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยใช้หลักเกษตรทฤษฎีใหม่ ปลูกพืชกว่า 50 ชนิดแบบผสมผสาน เช่น ไผ่ มะนาว และพืชผักสวนครัว ทำให้มีรายได้เฉลี่ยวันละ 500-1,000 บาท และสามารถส่งลูกทั้งสามคนเรียนจนจบปริญญา

MITR PHOL MODERNFARM

2. คุณถนอม มณีแสง: เกษตรกรจากจังหวัดอุทัยธานี

คุณถนอม มณีแสง วัย 67 ปี เกษตรกรจากตำบลหูช้าง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ได้นำแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่มาปรับใช้บนพื้นที่ 12 ไร่ โดยปลูกพืชผสมผสานหลายชนิด เช่น กล้วย มะนาว ฝรั่ง และไม้ยืนต้นอื่น ๆ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยปลูกพืชล้มลุกทั่วไป

เกษตรอินทรีย์แบบพอเพียง

ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการนำเกษตรทฤษฎีใหม่มาปรับใช้ ซึ่งสามารถเป็นต้นแบบให้กับเกษตรกรรายอื่น ๆ ที่สนใจในการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน

​9.) ในการสร้างให้องค์กรทางการเกษตรหรือเกษตรกร ในการสร้างกิจกรรมทางการเกษตร เพื่อนำผลิตผลสู่ผู้บริโภค ในประเทศไทย และ ต่างประเทศ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการให้ไทย เป็นครัวของโลก และ เพื่อ การรักษาความเป็นครัวของโลกเอาไว้

9. ครัวโลก

การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กรทางการเกษตรและเกษตรกรไทยในการนำผลิตผลสู่ผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนบทบาทของประเทศไทยในฐานะ "ครัวของโลก" และรักษาสถานะดังกล่าวไว้ มีความจำเป็นต้องดำเนินการในหลายด้าน ดังนี้:

1. การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าเกษตร

เพื่อให้สินค้าเกษตรไทยเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก ควรเน้นการผลิตที่มีคุณภาพและปลอดภัยตามมาตรฐานสากล เช่น การรับรองมาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practices) และการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์

2. การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการผลิต

การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการเกษตร เช่น ระบบการจัดการน้ำอัจฉริยะ การใช้โดรนในการสำรวจพื้นที่ และการใช้เซ็นเซอร์ในการตรวจสอบสภาพดินและพืช จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุน

3. การพัฒนาทักษะและความรู้ของเกษตรกร

การจัดฝึกอบรมและให้ความรู้แก่เกษตรกรเกี่ยวกับวิธีการผลิตที่ยั่งยืน การจัดการฟาร์ม และการตลาด จะช่วยให้เกษตรกรสามารถปรับตัวและพัฒนาการผลิตให้ตรงตามความต้องการของตลาด

4. การสร้างเครือข่ายและความร่วมมือ

การสร้างความร่วมมือระหว่างเกษตรกร องค์กรเกษตร และภาครัฐ รวมถึงการเข้าร่วมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนหรือสหกรณ์ จะช่วยเสริมสร้างอำนาจการต่อรองและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงตลาด

5. การส่งเสริมการตลาดและการสร้างแบรนด์

การพัฒนากลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสม การสร้างแบรนด์สินค้าเกษตรไทย และการเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ จะช่วยเพิ่มการรับรู้และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ

6. การสนับสนุนจากภาครัฐ

ภาครัฐควรมีนโยบายและมาตรการสนับสนุนที่ชัดเจน เช่น การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี การสนับสนุนเงินทุน และการจัดตั้งศูนย์บริการข้อมูล เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ประกอบการในการพัฒนาการผลิตและการตลาด

7. การรักษาความมั่นคงทางอาหาร

การผลิตอาหารที่เพียงพอและปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสถานะ "ครัวของโลก" ของไทย การส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารจะช่วยให้ประเทศสามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน

การดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพของภาคเกษตรไทยในการแข่งขันในตลาดโลก และรักษาสถานะของประเทศไทยในฐานะ "ครัวของโลก" ไว้อย่างยั่งยืน

​10.) IFOAM - Organics International คือ องค์กร ใด และ มีความสำคัญ ต่อ เกษตรอินทรีย์ ของไทย และ ของโลกอย่างไร ?

10. IFOM

IFOAM – Organics International (International Federation of Organic Agriculture Movements) คือองค์กรระดับโลกที่สนับสนุนและส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2515 โดยมีเครือข่ายสมาชิกกว่า 700 องค์กรในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

IFOAM

ความสำคัญของ IFOAM ต่อเกษตรอินทรีย์ของไทยและโลก:

  1. การกำหนดมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สากล: IFOAM ได้จัดทำมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ขั้นต่ำ (IFOAM Basic Standards) ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ทั่วโลกยอมรับและใช้เป็นแนวทางในการพัฒนามาตรฐานเกษตรอินทรีย์ในแต่ละประเทศ

    iqs.mju.ac.th

  2. การรับรองระบบงานเกษตรอินทรีย์: IFOAM จัดทำโครงการรับรองระบบงานเกษตรอินทรีย์ (IFOAM Accreditation Program) เพื่อประเมินและรับรองหน่วยงานที่ทำการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในความน่าเชื่อถือของตรารับรอง

    iqs.mju.ac.th

  3. การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ: IFOAM เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ทั่วโลก ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้ เทคโนโลยี และประสบการณ์ระหว่างประเทศสมาชิก

  4. การสนับสนุนเกษตรกรและผู้ประกอบการ: IFOAM จัดทำโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนเกษตรกรและผู้ประกอบการในการปรับปรุงกระบวนการผลิต การตลาด และการเข้าถึงตลาดสากล

ความสำคัญต่อเกษตรอินทรีย์ของไทย:

สำหรับประเทศไทย IFOAM มีบทบาทสำคัญในการกำหนดมาตรฐานและแนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ทำให้สินค้าเกษตรอินทรีย์ของไทยได้รับการยอมรับในตลาดโลก นอกจากนี้ การเป็นสมาชิกของ IFOAM ยังช่วยให้ประเทศไทยสามารถเข้าถึงข้อมูล เทคโนโลยี และเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ในประเทศ

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม:

  • เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ IFOAM – Organics International:

    IFOAM

การเข้าถึงข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้จะช่วยให้ผู้สนใจได้รับความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับบทบาทและความสำคัญของ IFOAM ต่อเกษตรอินทรีย์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก

เกษตรอินทรีย์

1. ความแตกต่าง

2.) มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ : การแสดงเครื่องหมายรับรอง Organic Thailand

2. เครื่องหมายรับรอง

3.) มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (Organic Thailand) 

3. มาตรฐาน

4.) ความเป็นมา "สหพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนแห่งประเทศไทย SDGsPGS"

4. สหพันธ์เกษตรกรรม
5.Organic

5.) สินค้า Organic คืออะไร

6. อินทรีย์โลก

6.) หลักการพื้นฐานของการทำเกษตรอินทรีย์โลก

ึ7.PGS

7.) การรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม (พีจีเอส)

8. ตรวจมาตรฐาน

8.) ตรวจมาตรฐานออแกนิค (ORGANIC THAILAND) - สูงเตี้ยเรี่ยดิน

9. คณะผู้ประเมิน

9.) การฝึกทักษะการตรวจประเมินการผลิตพืชอินทรีย์ 

10. มาตรฐานสากล

10.) มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ที่สำคัญในระดับสากลที่ทั่วโลกให้การยอมรับ

11. เพิ่มมูลค่า

11.) เกษตรอินทรีย์การเพิ่มมูลค่าสู่ตลาดต่างประเทศ

12.) เกษตรอินทรีย์ ที่ได้มาตรฐาน Organic Thailand และ IFOAM นครปฐม  

ๅ12.OT & IFOAM

13.) มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ตอน วิธีการผลิตพืชอินทรีย์

13. ผลิตพืชอินทรีย์

14.)  กรมพัฒนาที่ดิน - การรับรองเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม PGS สู่เกษตรอินทรีย์ วิถีพื้นบ้าน

14. GPS
IFOAM

15.) The International Federation of Organic Agriculture Movement (IFOAM) 4 clips

16 ปลูกพืชหมุนเวียน

16.)  เกษตรอินทรีย์ ปลูกพืชเชิงเดี่ยวมีข้อเสียและปลูกพืชหมุนเวียนมีข้อดีอะไร

17.)  กรมพัฒนาที่ดิน - พืช - เกษตรอินทรีย์ ปลูกพืชหมุนเวียนเลี้ยงชีพได้ 52 รายการ

17 พืชหมุนเวียน
18 สารพิษ

18.)  พิษภัยจากสารกำจัดศัตรูพืชที่ใช้ทางการเกษตร

2025-03-24_191911.png
19 7 ปุ๋ธรรมชาติ

19.)  7 ปุ๋ยธรรมชาติ อินทรียวัตถุราคาถูก! แถมยังฟรี! รีบหามาใส่สวนไว้ ปลูกอะไรก็งาม

20 ชีวภัณฑ์

20.)  ผลิตภัณฑ์ควบคุมศัตรูพืช หรือ “ชีวภัณฑ์” รวม 24 คลิป   

20.1 )  11 ชีวภัณฑ์ป้องกันกำจัดศัตรูพืช กรมวิชาการเกษตร รวม 3  คลิป   

20.2) The SUN Academy(TSA) ใคร่ขอเสนอการพัฒนาผลิตภัณฑ์ควบคุมศัตรูพืช หรือ “ชีวภัณฑ์” และ ภาพรวมการกำจัดศัตรูพืช ในการทำเกษตรอินทรีย์ ขนาดใหญ่ 

วิธีการควบคุมศัตรูพืชโดยชีววิธีที่แพร่หลายในขณะนี้คือการนำเชื้อจุลินทรีย์มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ควบคุมศัตรูพืช หรือ “ชีวภัณฑ์” เช่น เชื้อราไตรโคเดอร์มา เชื้อแบคทีเรียบาซิลลัส ซับทิลิส หรือบีเอส และในกลุ่มจุลินทรีย์กำจัดแมลงศัตรูพืช เช่น เชื้อราบิวเวอเรีย เชื้อไวรัสเอ็นพีวี ไส้เดือนฝอยสไตเนอร์มา เป็นต้น

 

การใช้ชีวภัณฑ์เป็นหนึ่งในวิธีการควบคุมศัตรูพืชแบบผสมผสาน ที่เกษตรกรมักใช้ร่วมกับวิธีการอื่น ๆ ได้แก่

 

1.) การปรับปรุงสภาพแวดล้อมเพื่อให้พืชเจริญเติบโต แข็งแรง ทนทานต่อศัตรูพืช ได้แก่ การปรับสภาพดิน การไถพรวน ปรับหน้าดินขึ้นตาก การกำจัดวัชพืช การปลูกพืชหมุนเวียน การตัดแต่งกิ่ง การปลูกพืชผสม

 

2.) การใช้อุปกรณ์ และเครื่องมือควบคุมศัตรูพืชด้วยวิธีง่าย ๆ ได้แก่ จับทำลายโดยใช้มือ การใช้มุ้งคลุมแปลง การใช้กับดักทั้งกรงดักและตาข่าย การใช้เครื่องยนต์ เช่น เครื่องจับตั๊กแตน เครื่องดูดแมลง

 

3.0 การใช้วิธีการหรือเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ เช่น ความร้อน แสง เสียง ในการไล่ ล่อ ฆ่า ได้แก่ เครื่องมือทำเสียงเพื่อให้เกิดคลื่นเสียงความถี่ต่ำไล่แมลง การใช้ความร้อนด้วยการนำดินมาอบสำหรับกำจัดศัตรูพืชชนิดต่าง ๆ ที่อยู่ในดิน

 

4.) เทคนิคการใช้แมลงเป็นหมัน โดยแมลงเป็นหมันจะไปผสมพันธุ์กับแมลงในธรรมชาติ ทำให้ไข่ที่ออกมาฝ่อไม่สามารถฟักเป็นตัว ลดการแพร่ขยายพันธุ์ของแมลงศัตรูพืชด้วยแมลงที่เป็นหมันชนิดเดียวกัน

 

5.) การใช้สารธรรมชาติ เช่น เมล็ดสะเดา ตะไคร้หอม พลูป่า หรือวิธีปลูกเพื่อขับไล่ เช่น การปลูกต้นดาวเรืองเพื่อใช้ขับไล่ไส้เดือนฝอยที่ทำให้เกิดรากปมของพืชผัก การปลูกต้นหอมเพื่อขับไล่เชื้อราและแบคทีเรียโรคพืชที่อยู่ในดิน และต้นผักกาดป่าใช้คลุกดินเพื่ออบทำลายเชื้อโรคพืชที่อยู่ในดิน

การเข้าใจธรรมชาติและวงจรชีวิตของศัตรูพืช ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ จะเป็นผลดีสำหรับเกษตรกรและชาวสวนผักคนเมืองทุกคน เพื่อเลือกวิธีการควบคุมศัตรูพืชได้ถูกวิธี และเพื่อให้ทุกขั้นตอนการเพาะปลูกเกิดการสูญเสียน้อยที่สุด-ได้ผลดีที่สุด

ขอบคุณ ข้อมูลจาก Webiste โครงการสวนผักคนเมือง มูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน(ประเทศไทย) 

20.3)  สารเคมีทางการเกษตร..กลุ่มที่ 11......(กลุ่มสารชีวภัณฑ์ เชื้อบีที )

กลุ่ม  Link ที่ติดต่อ ที่ใช้เพื่อเกษตรอินทรีย์

*** กลุ่มพลังงานทางเลือก Solarcell Link : https://bit.ly/3zjR7WT *** กลุ่ม อุปกรณ์ทำสวน (เครื่องตัดหญ้า และอื่นๆ) Link : https://bit.ly/3zjR7WT

*** กลุ่ม แตกแต่งสวน (เครื่องตัดแต่งกิ่ง และอื่นๆ Link : https://bit.ly/3CpdvzI

*** กลุ่มดินปุ๋ย และอุปกรณ์เพาะชำ (ปุ๋ย ฮอร์โมน ต่างๆ) Link : https://bit.ly/3Af1YT7

*** กลุ่มรถ และเครื่องตัดหญ้า (ทุกยี่ห้อ) Link : https://bit.ly/2VUhVPO

*** กลุ่ม ระบบรดน้ำต้นไม้ Link : https://bit.ly/3hH0w4M

*** กลุ่มอุปกรณ์ตกแต่งสวน Link : https://bit.ly/3tQwJv3

*** กลุ่มพันธุ์ไม้ต่างๆ Link : https://bit.ly/3CoCoMi

*** กลุ่มอุปกรณ์ทำครัวหลังจากขึ้นจากแปลงเกษตร LinK : https://bit.ly/3CnqXEw

**เชื้อไตรโคเดอร์มา และ บีเอส

** 1. หัวเชื้อไตรโคเดอร์มา และบีเอส (BS) จาก ม.เกษตร (เฟชบุ๊ค ของ อ.ประชุม รื่นนุสาร) Link : https://bit.ly/2VCqDSC

2... ไตรซาน ไตรโคเดอร์มา กดลิงค์ได้เลยครับ Link : https://bit.ly/3uZTMT8

3... เชื้อไตรโคเดอร์มาเข้มข้น กดลิงค์ได้เลยครับ Link : https://bit.ly/3cmLDSt

4... ชีวภัณฑ์ ลาร์มิน่า เชื้อแบคทีเรีย บาซิลลัส ซับทีลีส AP-01 (Bacillus subtilis) 1000 กรัม กดลิงค์ได้เลยครับ Link : https://bit.ly/3cpkqyt

 

**แคลเซียม-โบรอน **

1..โฟแมกซ์ แคลเซียมโบรอน 400 ขนาด 1 ลิตร Link : https://bit.ly/3qPFowy

2..ยาราวีต้า แคลซิพลัส แคลเซียม-โบรอน ขนาด 1 ลิตร Link : https://bit.ly/3ABtB9o

3..นูบรา สเปรย์ แคลเซียมโบรอน ขนาด 1 ลิตร Link : https://bit.ly/3xjSMLI

 

** ชุดทำแคลเซียมโบรอนไว้ใช้เอง **

1....ชุดทำแคลเซียมโบรอนไว้ใช้เอง ชุดที่ 1 ทำเฉพาะแคลเซียม-โบรอน ไม่ผสมธาตุอื่น

1.... ชุดทำแคลเซียมโบรอน สูตร 2 ช่วยการออกดอก ผสมเกษรได้ดีขึ้น ทำให้ติดผลได้ดีขึ้น ทำให้ขั้วเหนียว ลดการหลุดร่วงของดอกและผลเล็กๆ กดลิงค์ได้เลยครับ Link : https://bit.ly/3qPICjE

2.... ชุดทำแคลเซียมโบรอน สูตร3 สำหรับพืชลงหัว เช่นมันสำปะหลัง มันเทศ และพืชออกดอกติดผลตลอดเวลา กดลิงค์ได้เลยครับ Link : https://bit.ly/3xpKqSX

 

** ไคโตซาน **

1... ไคโตซาน จีที 1 กดลิงค์ได้เลยครับ Link : https://bit.ly/3uEtxlg

 

** ปุ๋ยเกร็ด**

1…ชาลีเฟรท 0-52-34💥 (แดง) 1 กิโล บำรุงดอก บำรุงผล ปุ๋ยเกล็ด ปุ๋ยเคมี เพิ่มดอก เร่งดอก ผล ปุ๋ย ฮอร์โมน อาหารเสริม ฟอสฟอรัส กดลิงค์ได้เลยครับ Link : https://bit.ly/3w0Z6Gy

2.ปุ๋ยเกล็ด 0-0-60 สูตรใหม่ ปุ๋ยชาลีเฟรท ละลายง่าย กลิ่นหอม ใช้น้อย เนื้อละเอียด ต้นแข็งแรงต้านทานโรค เพิ่มแป้ง กดลิงค์ได้เลยครับ Link : https://bit.ly/3w3qIuF

3… ยารา วีต้า ฟรูเทรล 1,000 ml. อาหารเสริมพืช ฮอร์โมนพืช ปุ๋ยน้ำ แมกนีเซียม+แคลเซียม+โบรอน+ซิงค์กดลิงค์ได้เลยครับ Link : https://bit.ly/2Tz93hb

4… เวสโก้ แมกนีเซียม 50 กรัม [ ผลิตจากวัสดุวัตถุดิบคุณภาพดี ] กดลิงค์ได้เลยครับ Link : https://bit.ly/3y3H0p6 5… ปุ๋ยเกล็ด เวสโก้ สุตร 10-20-30+ บรรจุ 1 kg กดลิงค์ได้เลยครับ Link : https://bit.ly/3D1cGP3

6… 20-10-30+TE เวสโก้ 1 kg. อาหารเสริมพืช ฮอร์โมนพืช ปุ๋ยเกล็ด กดลิงค์ได้เลยครับ Link : https://bit.ly/3k5oYwQ

7… ปุ๋ยเกล็ด เวสโก้ สุตร 30-20-10+Trace Element (ธาตุรอง&เสริม) เร่งการเจริญของลำต้นและใบ บรรจุ 1 กิโลกรัม กดลิงค์ได้เลยครับ Link : https://bit.ly/3j5zxAV

 

** กลุ่มน้ำตาลทางด่วน สาหร่ายน้ำ **

1… พีวีด (สาหร่ายน้ำเขียว+ซิงค์) 1,000 ml. อาหารเสริมพืช ฮอร์โมนพืช ปุ๋ยน้ำกดลิงค์ได้เลยครับ Link : https://bit.ly/3BR5e8e

2… มิกซ์พลัส (น้ำตาลทางด่วน) เร่งสี เร่งหวาน สร้างเนื้อ 1,000 ml.กดลิงค์ได้เลยครับ Link : https://bit.ly/3ydyfZJ

 

** สารจับใบ**

1… สารจับใบ ยาจับใบ สารเสริมประสิทธิภาพ สูตรเข้มข้น 1 ลิตรสารจับใบ ยาจับใบ สารเสริมประสิทธิภาพ สูตรเข้มข้น 1 ลิตร กดลิงค์ได้เลยครับ Link : https://bit.ly/3dD832n

2… สารจับใบ N70 (บอสเอ็น.70) ชนิดเข้มข้น ขนาด500มล. กดลิงค์ได้เลยครับ Link : https://bit.ly/3AisSKd

3… สารเพิ่มประสิทธิภาพ สารจับใบ เบสมอร์ [เจียไต๋] บรรจุ 500 ml กดลิงค์ได้เลยครับ Link : https://bit.ly/3qIpAvf 4… สารจับใบ ยาจับใบ สารเสริมประสิทธิภาพการดูดซึมทิพย์พฤกษา ของแท้ 100%(ขนาด 1 ลิตร) กดลิงค์ได้เลยครับ Link : https://bit.ly/3hbEcQY 

คู่มือการใช้ชีวภัณฑ์ทางการเกษตรอย่างละเอียด พร้อมเทคนิคประสิทธิภาพสูง

ชีวภัณฑ์ (Biopesticide) เป็นเครื่องมือสำคัญในการเกษตรยุคใหม่ที่ใช้สิ่งมีชีวิตหรือสารจากธรรมชาติเพื่อควบคุมศัตรูพืช แทนการใช้สารเคมีสังเคราะห์ โดยมีประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

 

1. ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับชีวภัณฑ์

1.1 นิยามและประเภทของชีวภัณฑ์

ชีวภัณฑ์หมายถึงสิ่งมีชีวิตหรือสารจากธรรมชาติที่ใช้ควบคุมศัตรูพืช แบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก 3:

  1. จุลินทรีย์ควบคุมศัตรูพืช:

    • เชื้อรา: เช่น บิวเวอเรีย (ควบคุมเพลี้ย), ไตรโคเดอร์มา (ควบคุมโรคพืช)

    • แบคทีเรีย: เช่น บาซิลลัส ทูรินจิเอนซิส (Bt) (กำจัดหนอน)

    • ไวรัส: เช่น NPV (กำจัดหนอนกระทู้)

  2. ตัวห้ำ (Predator):

    • เช่น มวนพิฆาต ด้วงเต่าตัวห้ำ แมลงช้าง ที่กินเพลี้ยเป็นอาหาร

  3. ตัวเบียน (Parasite):

    • เช่น แตนเบียนไข่ไตรโคแกรมม่า ที่วางไข่ในไข่ผีเสื้อศัตรูพืช

1.2 กลไกการทำงาน

  • จุลินทรีย์: สร้างสปอร์เกาะตัวแมลง ดูดสารอาหารจนตาย 3

  • ตัวห้ำ: กินศัตรูพืชเป็นอาหารโดยตรง

  • ตัวเบียน: วางไข่ในตัวศัตรูพืช ตัวอ่อนกินอาหารจากเหยื่อ

 

2. สูตรชีวภัณฑ์ยอดนิยมและวิธีทำ

2.1 สูตรเชื้อราบิวเวอเรีย (ควบคุมเพลี้ยและแมลง) 11

ส่วนผสม:

  • เชื้อราบิวเวอเรียสด 1 กก.

  • น้ำตาลทรายแดง 100 กรัม

  • น้ำสะอาด 20 ลิตร

วิธีทำ:

  1. ผสมเชื้อรากับน้ำตาลในน้ำ

  2. หมัก 3-5 วันในที่ร่ม

  3. กรองเอาแต่น้ำ

อัตราการใช้: 50 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นตอนเย็น

2.2 สูตรไตรโคเดอร์มา (ควบคุมโรคพืช) 11

ส่วนผสม:

  • เชื้อไตรโคเดอร์มา 1 กก.

  • รำข้าว 5 กก.

  • น้ำหมักชีวภาพ 1 ลิตร

วิธีทำ:

  1. คลุกส่วนผสมให้เข้ากัน

  2. หมักในกระสอบ 7 วัน

วิธีใช้: โรยรอบโคนต้น 100 กรัม/ต้น ทุก 15 วัน

 

3. เทคนิคการใช้ให้ได้ผลดีที่สุด

3.1 หลักการเลือกใช้ชีวภัณฑ์

  • เพลี้ย: ใช้บิวเวอเรียหรือมวนพิฆาต

  • หนอน: ใช้ Bt หรือแตนเบียน

  • โรคพืช: ใช้ไตรโคเดอร์มาหรือบาซิลลัส ซับทีลิส 3

3.2 เวลาและวิธีการใช้ที่เหมาะสม

  • ฉีดพ่น ช่วงเย็น (แสงแดดทำลายจุลินทรีย์) 11

  • ใช้ น้ำสะอาด ผสม (คลอรีนในน้ำประปาอาจฆ่าจุลินทรีย์)

  • ควรใช้ ต่อเนื่อง 3-5 ครั้ง ห่างกัน 7 วัน 15

3.3 การเก็บรักษา

  • เก็บในที่ เย็ดและมืด

  • ใช้ให้หมดภายใน 3-6 เดือน (ชีวภัณฑ์สดมีอายุสั้น) 11

 

4. ข้อควรระวังและปัญหาที่พบบ่อย

4.1 ปัจจัยที่ทำให้ชีวภัณฑ์การทำให้เป็นโมฆะ 11

  • อุณหภูมิสูงกว่า 35°C

  • แสงแดดจัด

  • สารเคมีที่ตกค้างในแปลง

4.2 ข้อห้ามสำคัญ

  • ไม่ใช้ร่วมกับสารเคมี ยกเว้นชนิดที่ระบุว่าสามารถผสมได้

  • ไม่ใช้ชีวภัณฑ์หมดอายุ (สังเกตจากการเปลี่ยนสีและกลิ่น) 11

 

5. การประยุกต์ใช้จริงในแปลงเกษตร

5.1 ในนาข้าว

  • ใช้ เชื้อราเมธาไรเซียม ควบคุมเพลี้ยกระโดด

  • ใช้ แตนเบียน ควบคุมหนอนกระทู้

5.2 ในสวนผลไม้

  • ใช้ บิวเวอเรีย ควบคุมแมลงวันผลไม้

  • ใช้ ไตรโคเดอร์มา ป้องกันโรครากเน่า

5.3 ในแปลงผัก

  • ใช้ Bt ควบคุมหนอนผัก

  • ใช้ มวนพิฆาต ควบคุมเพลี้ยอ่อน

 

6. เปรียบเทียบประสิทธิภาพชีวภัณฑ์ vs สารเคมี

เกณฑ์เปรียบเทียบชีวภัณฑ์สารเคมี

ความปลอดภัยสูงมากต่ำ

ผลตกค้างไม่มีมี

การดื้อยาไม่เกิดเกิดง่าย

ราคาถูกในระยะยาวแพง

ผลข้างเคียงไม่มีมีผลต่อสิ่งแวดล้อม

 

7. แหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม

  • ศูนย์เรียนรู้การเกษตรอินทรีย์ทั่วประเทศ

  • กรมวิชาการเกษตร (บริการตรวจสอบคุณภาพชีวภัณฑ์) 11

  • งานเสวนาออนไลน์ "รู้จัก-รู้ใช้ชีวภัณฑ์" โดย NSTDA 11

การใช้ชีวภัณฑ์จำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ควรเริ่มทดลองใช้ในพื้นที่เล็กก่อน แล้วค่อยขยายผล เมื่อคุ้นเคยกับวิธีการใช้แล้ว จะพบว่าสามารถลดการใช้สารเคมีได้มากกว่า 70% ในขณะที่ยังรักษาผลผลิตให้อยู่ในระดับที่ดี 315

แองเคอ 1

© 2024 by The SUN Academy (TSA). Powered and secured by Wix

bottom of page